ทำไมหินสังเคราะห์จากอิตาลีจึงดีกว่าหินจากสัญชาติอื่น
มีต้นกำเนิดมาจาก เหมืองหินอ่อนคาราร่า แคว้น ทัสคานี
เทือกเขาในอิตาลีที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องหินอ่อนคุณภาพดีที่สุดในโลก
มีความบริสุทธิ์ ทนทาน เนื้อละเอียด เหมาะแก่การนำมาประดับบ้านหรือตกแต่งเป็นเฟอร์นิเจอร์
หินอ่อนเมืองคาร่าร่าให้ความรู้สึกหรูหราและคลาสสิคมีสไตล์
ลายของหินสวยโดดเด่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นี่เป็นเหตุผลอย่างหนึ่งว่าทำไมคนจึงนิยมใช้หินที่มาจากอิตาลีในการตกแต่งบ้าน
เพราะบ้าน ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัยที่มีไว้พักผ่อนเพียงอย่างเดียว
แต่เป็นศูนย์รวมของสมาชิกทุกคนในครอบครัวที่ใช้ชีวิตร่วมกันให้ปลอดภัยและมีความสุข
หลายคนจึงอยากสร้างบ้านให้ออกมาดีที่สุด
จึงเลือกใช้หินอ่อนคาราร่าที่นำเข้าจากประเทศอิตาลี
ส่วนเรื่องของราคานั้น ค่อนข้างสูงแต่คุ้มค่าต่อการใช้งานระยะยาวแน่นอน หากเป็นแผ่นหินที่หนามักจะมีราคาสูงสุดถึง 400 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือนับเป็นเงินไทยประมาณ 13,700 บาท ต่อตารางเมตรเลยทีเดียว แต่มีหินอีกชนิดหนึ่งที่ให้ความรู้สึกเหมือนกัน ราคาถูกกว่า และนิยมใช้แทนหินอ่อนเพราะมีคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกัน นั่นคือหินสังเคราะห์นำเข้าจากอิตาลีนั่นเอง
ลักษณะเด่นของหินสังเคราะห์ที่นำเข้าอิตาลี
1. เป็นวัสดุที่ถูกผลิตออกมาเพื่อทดแทนการใช้หินจากธรรมชาติหากมองด้วยตาเปล่าแทบจะแยกความแตกต่างไม่ออก
เพราะด้วยพื้นผิว ลวดลวยและสีที่เหมือนกับหินจากธรรมชาติ 'หินสังเคราะห์นำเข้าจากอิตาลี' คือหินเสมือนจริง ที่มีการใช้นวัตกรรมและสารต่าง ๆ
ใส่เพิ่มเข้าไปในวัสดุจากนั้นผ่านกระบวนการทางเทคโนโลยี
เพื่อให้คุณสมบัติของหินมีความพิเศษมากยิ่งขึ้น ให้ความสวยงามเรียบหรูดูมีสไตล์..
ไม่แพ้หินอ่อนแท้(หินจริง) ซึ่งนิยมใช้ตกแต่งผนัง ทำเคาน์เตอร์ เฟอร์นิเจอร์ ทำเป็นTopโต๊ะ ปูพื้น ฯลฯ และสามารถนำมาตกแต่งร่วมกับวัสดุอื่น ๆ ได้อีกหลายแบบ
2. ทนทานต่อการใช้งานระยะยาว เนื่องจากในหินสังเคราะห์อิตาลี ได้ผ่านกระบวนการผลิตโดยใช้
เทคโนโลยี และเครื่องจักรสมัยใหม่
ใช้อุณหภูมิและความดันสูงหลอมอนุภาคแร่หินธรรมชาติ
สร้างเป็นผลิตภัณฑ์แผ่นเรียบขนาดใหญ่ มีคุณสมบัติไม่ดูดซึมน้ำหรือของเหลว
ทนทานต่อรอยขีดข่วน น้ำหนักเบา มีความโดดเด่นมากกว่าถ้าเทียบกับการเลือกใช้หินจากธรรมชาติทั่วไป
จากสารที่ช่วยเสริมคุณสมบัติเดิมของวัสดุหินให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น มีทั้งสารยับยั้งเชื้อรา
สารต้านทานรังสียูวี รวมถึงทนแสงอาทิตย์และอุณหภูมิที่สูง ซึ่งเหมาะกับประเทศไทยเราที่เป็นพื้นที่เขตร้อน
หินจากสัญชาติอื่น
ยกตัวอย่าง หินดำจีน ที่เรียกชื่อแบบนี้เพราะตั้งชื่อจากสีของหินและชื่อประเทศต่อกัน
จึงออกมาเป็น หินดำจีน ส่วนราคาขายจะอยู่ที่ 1,500 – 2,300 บาท ต่อตารางเมตร สังเกตุว่าราคาจะถูกมากกว่า หากเปรียบเทียบกับหินสังเคราะห์นำเข้าจากอิตาลี
แต่คุณภาพก็เทียบหินสังเคราะห์อิตาลีไม่ติดเลยเช่นกัน เพราะ หินดำจีนบางท้องถิ่น จะมีรูพรุนมากตามธรรมชาติของหิน
ดูดซึมน้ำได้ง่าย เมื่อน้ำซึมลงไปแล้วก็จะเป็นรอยด่างขัดไม่ออกเนื่องจากน้ำซึมเข้าไปในเนื้อหิน
ยิ่งไปกว่านั้นผู้ผลิตและส่งออกหินสังเคราะห์ดำจีนบางรายยังใช้วิธีย้อมสีผิวหินสังเคราะห์ที่ไม่ดำจริง
ๆ ให้มันดำสนิทสวยงามดูมีราคาให้น่าใช้งาน แต่ถ้าใช้ไปนาน ๆ สีที่ย้อมมาจะจางลงทั้งแผ่น
บ้างก็จางเป็นหย่อม ๆ หากโดนน้ำหรือเกิดความชื้นขึ้นบนแผ่นหิน เชื้อโรคแบคทีเรีย
เชื้อราจากความชื้นสะสมก็จะตามมาติด ๆ หากไม่หมั่นดูแลรักษาให้ดีนั่นเอง
สรุปเหตุผลว่า ทำไมหินสังเคราะห์อิตาลีจึงดีกว่าหินจากสัญชาติอื่น …….
คนรักบ้าน
ต้องอยากสร้างบ้านให้ออกมาดีที่สุด คุ้มค่ากับการใช้งานระยะยาวมากที่สุด หลายคนจึงตัดปัญหาเรื่องหินที่อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายในอนาคตออก
โดยการเลือกใช้หินที่นำเข้าจากอิตาลีแทนการใช้หินจากชาติอื่นค่ะ
เกร็ดความรู้ (เพิ่มเติม) หินอ่อนอิตาลี
หินอ่อนอิตาลีเป็นหินสีขาวและมีแร่ที่เป็นสายสีเทาหรือน้ำตาลพาดอยู่
เพราะเป็นหินเกรดสูงจึงนิยมมาทำ Topเฟอร์นิเจอร์ ผนัง และหินปูพื้น หินที่ดีที่สุดของเมืองคาราร่า
คือสตาตูริโอ (Statuario) เป็นหินสีขาวมีลายไม่เยอะมาก แต่เป็นลายขนาดใหญ่สีเทา
และลายจะไม่มีเศษลายเล็กๆที่กระจัดกระจายออกมา
ถ้าหินที่ดีมีคุณภาพชาวอิตาลีจึงจัดอยู่ในกลุ่ม สตาตูริโอนั่นเอง ถ้ารองลงมาก็เป็น ไวท์ คาราร่า ในอิตาลียังมีหินสังเคราะห์จาก เมืองคอร์เชีย (Corchia Quarry) เป็นหินสีขาวมีลายเทา ที่คนนิยมใช้เยอะมากเช่นกัน แต่จะมีลายเทาวงกลมและวงรี กระจายกันอยู่ทั่วแผ่นหิน ชาวอิตาลีจึงเรียกหินนี้ว่า อาราเบสคาโต้ (Arabescato) นั่นเอง
อ้างอิงโดย :
thaiza.com/travel/foreign/476933/
ขอขอบคุณข้อมูลรูปภาพจาก
pinterest.com