1. ทำความรู้จักกับหินสังเคราะห์
หินสังเคราะห์หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อหินเทียมคือวัสดุที่ถูกผลิตออกมาเพื่อทดแทนการใช้หินจากธรรมชาติหากมองด้วยตาเปล่าแทบจะแยกความแตกต่างไม่ออกเพราะด้วยพื้นผิว ลวดลวยและสีที่เหมือนกับหินจากธรรมชาติ 'หินสังเคราะห์' คือการสร้างหินสังเคราะห์เสมือนจริง มีการใช้นวัตกรรมและสารต่างๆ ใส่เพิ่มเข้าไปในวัสดุ เพื่อให้คุณสมบัติของหินมีความพิเศษมากยิ่งขึ้นเช่นทนทานต่อการใช้งานระยะยาวส่วนใหญ่มักใช้ทำเคาน์เตอร์ เฟอร์นิเจอร์หรือสุขภัณฑ์อ่างอาบน้ำ อ่างล้างหน้าหินสังเคราะห์ ทำเป็นท็อปโต๊ะ ปูพื้น และสามารถนำมาตกแต่งร่วมกับวัสดุอื่นๆได้หลายแบบ
เนื่องจากในหินสังเคราะห์ได้ผ่านกระบวนการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการจำลองการเกิดหินซึ่งใช้เวลากว่าพันปีในธรรมชาติด้วยเทคโนโลยี และเครื่องจักรสมัยใหม่ใช้อุณหภูมิและความดันสูงหลอมอนุภาคแร่หินธรรมชาติ สร้างเป็นผลิตภัณฑ์แผ่นเรียบขนาดใหญ่มีคุณสมบัติไม่ดูดซึมน้ำหรือของเหลว ทนทานต่อรอยขีดข่วน น้ำหนักเบารวมถึงทนแสงอาทิตย์และอุณหภูมิที่สูง มีการใส่สารเติมแต่งเพื่อเพิ่มคุณสมบัติให้กับวัสดุหินสังเคราะห์ทำให้วัสดุหินสังเคราะห์ มีความโดดเด่นมากกว่าถ้าเทียบกับการเลือกใช้หินจากธรรมชาติทั่วไปสารที่ช่วยเสริมคุณสมบัติเดิมของวัสดุหินให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้นมีทั้งสารยับยั้งเชื้อรา สารต้านทานรังสียูวี เป็นต้น
คุณสมบัติการใช้งานและประโยชน์หินสังเคราะห์
- มีความแข็งสูงรองจากเพชร
- สามารถออกแบบหรือขึ้นรูปชิ้นงานได้อย่างมีอิสระทั้งงานตัดตรงหรืองานดัดโค้ง
- สะอาดถูกหลักอนามัยเนื่องจากเนื้อหินไม่มีรูพรุนและรอยต่อแนบสนิท จึงไม่ซึมน้ำป้องกันปัญหาเชื้อราและการรั่วซึม ไม่ทำให้แบคทีเรียและเชื้อรามีการเจริญเติบโตเหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการความสะอาดเช่น ภายในห้องครัว ห้องน้ำ ตลอดจนการใช้งานที่เป็นพื้น ผนัง หรือหน้าโต๊ะทั้งภายในและภายนอกได้
- ทนทานต่อสภาพอากาศ
- ทนต่อกรด-ด่าง สารเคมีต่าง ๆ
- ช่วยป้องกันการลุกลามของไฟและสามารถตากแดด ตากฝนได้
- ทนต่อรังสียูวีและมีอายุการใช้งานยาวนาน สีของพื้นผิวไม่เปลี่ยนแปลงสีขาวจะไม่เปลี่ยนเป็นสีเหลือง
- มีตัวเลือกสีสันและลวดลายมากกว่าหินแท้
- สามารถวางลวดลายและสีของหินได้อย่างสม่ำเสมอและคงที่
- สามารถนำไปใช้ได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็น งานTop Counter, Top ครัว, Top โต๊ะ ทำผนัง กำแพง พื้นนอกบ้าน พื้นในบ้าน เป็นต้น
2. ทำความรู้จักกับหินควอตซ์
หินควอตซ์เป็นหินสังเคราะห์ชนิดใหม่ที่ทำจากคริสตัลควอตซ์และเรซินธรรมชาติมากกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ทำให้หินควอตซ์มีสีสันและลวดลายที่ทำให้ดูคล้ายหินอ่อนธรรมชาติ เป็นหินที่มีความแข็งแรงสูงเนื้อหินหนาและแข็งไม่มีรูพรุนจึงไม่ดูดซึมน้ำสามรถทนต่อรอยขีดข่วนได้มากกว่าหินสังเคราะห์ทั่วไป ทนต่อความร้อน ทนต่อไฟทนต่อสารเคมี และกรดด่าง ตอบโจทย์ในเรื่องสุขอนามัยเพราะไม่มีรูพรุนจึงไม่ก่อให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคเชื้อรา และสิ่งสกปรกอื่น ๆ แม้หินควอตซ์จะมีข้อดีมากขนาดไหนแต่หลายคนมักมองไปถึงราคาที่มีราคาแพงกว่าหินสังเคราะห์และหินชนิดอื่นนั่นเอง
เนื่องจากหินควอตซ์เป็นหินที่ไม่มีรังสีไม่มีสารพิษ ไม่มีการแตกร้าวง่าย ทนทานและป้องกันรอยขีดข่วนทนต่อการสึกหรอ ทนต่อแรงกระแทก ทนต่อการกัดกร่อนป้องกันการแทรกซึมจึงนิยมนำไปทำเป็นเคาน์เตอร์ห้องครัว ทำเป็นท็อปโต๊ะ ทำกระเบื้องปูพื้นและสามารถนำมาตกแต่งร่วมกับวัสดุอื่น ๆได้หลายสไตล์ส่วนใหญ่เคาน์เตอร์หินควอตซ์นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายใช้ตกแต่งทั้งภายในภายนอกบ้าน/อาคาร ทั้งยังสามารถล้างทําความสะอาดและทําความสะอาดได้ง่าย
คุณสมบัติการใช้งานและประโยชน์
- มีความแข็งสูงรองจากเพชร
- ทนต่อรอยขีดข่วนและการเสียดสี
- ทนทานต่อสารเคมี และกรด จากอาหารเช่นนํ้ามะนาว ฯลฯ
- ไม่มีรูพรุน ทำให้นํ้าและของเหลวไม่สามารถซึมเข้าไปได้ดังนั้นหินควอตซ์จึงไม่จำเป็นต้องใช้สารป้องกัน
แบคทีเรียเนื่องจากไม่มีรูพรุนที่แบคทีเรียจะเข้าไปสะสมอยู่ได้
- มีความแข็งแรงและทนต่อแรงกระแทก
- ทำความสะอาดและดูแลรักษาง่าย
- ใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก / พื้นและผนัง
3.ข้อดีข้อเสียหินสังเคราะห์และควอตซ์
ข้อดีของหินสังเคราะห์
- ไม่มีรูพรุน และสามารถดัดงอ หินได้
- ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
- มีความแข็งมาก รองลงมาจากเพชร
- สีและลวดลายสม่ำเสมอทั่วทั้งแผ่น
- ทนทานต่อรอยขีดข่วน
- ทนความร้อน สารเคมีกรด ด่าง
- ง่ายต่อการติดตั้ง และทำความสะอาด
- สามารถรองรับงานออกแบบที่มีขนาดใหญ่ได้
- สะอาด ปลอดภัย เนื่องจากมีคุณสมบัติป้องกันแบคทีเรียในตัว
- ราคาถูกกว่าหินควอตซ์
ข้อเสียหินสังเคราะห์
- ราคาจะสูงกว่าหินธรรมชาติ
ข้อดีหินควอตซ์
- ไม่มีรูพรุน
- สะอาด ถูกสุขลักษณะ เนื่องจากแบคทีเรียไม่สามารถเข้าไปอาศัยอยู่ได้
- ทนต่อการขีดข่วน
- มีความแข็งมาก รองลงมาจากเพชร
- มีลวดลายให้เลือกหลากหลาย และสวยงาม
ข้อเสียหินควอตซ์
- ไม่สามารถทำเป็นลายหินอ่อนได้
- ราคาสูงกว่าหินสังเคราะห์
- หินมีโอกาสเปลี่ยนสี หากถูกแสงแดดเป็นประจำเป็นเวลานานๆ
- เมื่อหินควอตซ์ได้รับความเสียหายก็ยากต่อการซ่อมแซม หรือบางครั้งความเสียหายที่เกิดกับหินก็ไม่สามารถซ่อมแซมได้
4. สรุป ทำไมหินสังเคราะห์จึงดีกว่าหินควอตซ์
แม้ว่าหินควอตซ์จะแข็งมากในระดับรองลงมาจากเพชรหินสังเคราะห์หรือหินเทียมก็มีคุณสมบัตินั่นเช่นกัน และหากเทียบกับการใช้งานในระยะยาวจริงๆ หินสังเคราะห์ย่อมดีกว่าแน่นอนเหตุผลเพราะ หินควอตซ์หากถูกแสงแดดประจำเป็นเวลานานจะทำให้หินเกิดการเปลี่ยนสีได้เช่นหินควอตซ์สีขาวอาจเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแน่นอนว่าถ้าเป็นหินสังเคราะห์สีของหินจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้ว่าระยะเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตามถัดมาเรื่องการซ่อมแซมหินควอตซ์เมื่อเกิดความเสียหายจะทำให้ยากต่อการซ่อมแซมมากถ้าเทียมกับหินสังเคาะรห์ส่วนคุณสมบัติอื่น ๆ หินสองชนิดนี้มีแทบจะเหมือนกันทั้งหมดทั้งเรื่องความคงทนความแข็งแรง ทนความร้อน ความปลอดภัยจากแบคทีเรีย / เชื้อราความทนต่อสารเคมี ทนต่อรอยขีดข่วน ฯลฯ มาถึงข้อสรุปสุดท้าย เรื่องของราคาหินสังเคราะห์มีราคาถูกกว่าหินควอตซ์มากจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ใครหลาย ๆคนเลือกใช้หินสังเคราะห์มากกว่าเพราะคุณสมบัติแทบจะเหมือนกันทั้งหมดบวกกับราคาที่ถูกว่านั่นเอง